การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance: PM) สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าและมอเตอร์เกียร์เป็นสิ่งจำเป็นในโรงงานอุตสาหกรรม ช่วยลดโอกาสการหยุดทำงานกะทันหัน ยืดอายุการใช้งาน และเพิ่มความปลอดภัยของระบบขับเคลื่อน บทความนี้รวบรวมตารางงาน PM รายวัน–รายปี วิธีตรวจเช็ค เครื่องมือแนะนำ และแนวทางการบันทึกผล เพื่อให้ทีมช่างดำเนินการได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
- ทำไมต้องมี PM สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าและมอเตอร์เกียร์?
- ลด downtime และความเสี่ยงการเสียหายฉับพลัน
- ยืดอายุแบริ่ง ขดลวด และเฟือง ลดค่าใช้จ่ายอะไหล่
- ป้องกันอุบัติเหตุจากมอเตอร์ร้อน/ลัดวงจร
- ทำให้การวิเคราะห์แนวโน้มปัญหา (trend) เป็นไปได้จากข้อมูลที่บันทึก
- ตาราง PM แนะนำ
- รายวัน (ก่อนใช้งาน/ขณะทำงาน)
- ฟังเสียงมอเตอร์/เกียร์ว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่
- ตรวจกลิ่นไหม้หรือความร้อนผิดปกติ (สัมผัสภายนอก/IR thermometer)
- สังเกตแรงดันและกระแสไฟให้เป็นค่าปกติ
- รายสัปดาห์
- ทำความสะอาดพื้นผิว มอเตอร์ และช่องระบายอากาศ ปัดฝุ่นและคราบน้ำมัน
- ตรวจสายไฟ ขั้วต่อ ไม่ให้หลวม หรือมีรอยไหม้
- รายเดือน
- วัดกระแสไฟ (A) เปรียบเทียบกับค่าสเปค
- ตรวจฉนวนสายไฟ (visual) และเช็กการสั่นสะเทือนเบื้องต้น
- ราย 3–6 เดือน
- ตรวจสภาพแบริ่งและอัดจาระบีตามคู่มือผู้ผลิต
- ตรวจวัดการสั่นสะเทือน (Vibration analysis) หากค่าผิดปกติให้หาสาเหตุ
- ตรวจระดับน้ำมันเกียร์และสภาพน้ำมัน (สำหรับมอเตอร์เกียร์)
- รายปี
- ทดสอบค่าความต้านทานฉนวน (Insulation Resistance Test — Megger)
- ถอดตรวจภายในมอเตอร์และชุดเกียร์ ทำความสะอาดและเปลี่ยนชิ้นส่วนสึกหรอ
- ตรวจสอบและเปลี่ยนแบริ่งหากพบการสึกหรอหรือเสียงผิดปกติ

- การ PM มอเตอร์เกียร์โดยละเอียด
- รายวัน: ฟังเสียง ตรวจแรงสั่น และเช็กการรั่วน้ำมัน
- รายเดือน: ตรวจระดับน้ำมันเกียร์ ตรวจนอตยึด และตรวจซีล
- ราย 3–6 เดือน: เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามสเปค ตรวจฟันเฟืองภายใน (ถ้าเปิดได้)
- รายปี: ถอดทำความสะอาดภายใน ตรวจแบริ่ง เฟือง และทดสอบประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับมอเตอร์
- เครื่องมือแนะนำสำหรับ PM
- Infrared thermometer / Thermal camera — ตรวจหาจุดร้อน
- Clamp meter / Multimeter — วัดกระแส แรงดัน และค่าต่างๆ
- Megohmmeter (Insulation tester) — ตรวจฉนวนขดลวด
- Vibration analyzer — ตรวจและวิเคราะห์สาเหตุการสั่นสะเทือน
- Oil analysis kit — ตรวจสภาพน้ำมันเกียร์
- เครื่องมือช่างพื้นฐาน: ไขควง ประแจ ไขควงวัดฉนวน ฟันเฟืองเช็ค

- วิธีการบันทึกผล PM และการวิเคราะห์แนวโน้ม
- เก็บข้อมูลทุกครั้ง: วันที่ เวลา ชื่อผู้ตรวจ วัดค่าอุณหภูมิ A, กระแส (A), ค่า Megger, ค่า vibration (mm/s) และสภาพภายนอก/หมายเหตุ
- ใช้แบบฟอร์ม PM หรือ CMMS (Computerized Maintenance Management System) เพื่อบันทึกและแจ้งเตือนรอบถัดไป
- วิเคราะห์ trend: หากค่าอุณหภูมิ/กระแส/การสั่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ให้เตรียมแผนซ่อมก่อนเกิดความเสียหายใหญ่
- เคล็ดลับปฏิบัติที่ควรทำ
- ปฏิบัติตามคู่มือผู้ผลิตทั้งอัตราการอัดจาระบีและชนิดน้ำมันเกียร์
- หลีกเลี่ยงการเติมจาระบีมากเกินไป (overgreasing) ซึ่งอาจทำให้แบริ่งร้อน
- ตรวจแนวเพลา (shaft alignment) ทุกครั้งหลังการติดตั้งหรือซ่อมใหญ่
- ตั้งค่า alarm และ protection (overload relay, temperature sensor) เพื่อป้องกันสูญเสียฉับพลัน
- ความถี่ PM ที่แนะนำตามการใช้งาน
- ใช้งานปกติ (8–16 ชม./วัน): PM ทุก 3–6 เดือน และตรวจรายเดือน/สัปดาห์ตามตารางข้างต้น
- ใช้งานหนัก/24 ชม. ต่อวัน: PM ทุกเดือน และตรวจสภาพรายสัปดาห์
- งานสำคัญที่ความแม่นยำสูง: เพิ่มการตรวจวัด vibration/temperature แบบออนไลน์ (continuous monitoring)
- ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการทำ PM อย่างสม่ำเสมอ
- ลด downtime และค่าใช้จ่ายซ่อมฉุกเฉิน
- ยืดอายุการใช้งานมอเตอร์และเกียร์ ลดการเปลี่ยนชิ้นส่วนบ่อยครั้ง
- เพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของสายการผลิต
- ลดการใช้พลังงานจากมอเตอร์ที่ทำงานผิดปกติ
สรุป
การทำ PM สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าและมอเตอร์เกียร์ ตามรอบเวลาอย่างเป็นระบบเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ทั้งในแง่การลดค่าใช้จ่ายระยะยาวและการเพิ่มความเสถียรของการผลิต ใช้เช็คลิสต์ ตารางการตรวจ และเครื่องมือวัดที่เหมาะสม รวมทั้งบันทึกข้อมูลเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มการเสื่อมสภาพ

