มอเตอร์ไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมและงานเครื่องกลทั่วไปรับบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพ แต่ด้วยการใช้งานที่มากเกินพิกัดหรือการเกิด Overcurrent อาจทำให้มอเตอร์เสียหายได้ การเลือกใช้โอเวอร์โหลดรีเลย์ (Overload Relay) ที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันความเสียหายและยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์ได้
Overload Relay คืออะไร?
โอเวอร์โหลดรีเลย์ทำหน้าที่ป้องกันกระแสเกิน โดยทำงานคู่กับคอนแทคเตอร์ (Contactor) เพื่อป้องกันมอเตอร์จากการ Overload ถ้ากระแสที่มอเตอร์สูงเกินค่าที่ตั้งไว้ ระบบจะสั่งให้คอนแทคเตอร์ตัดไฟจากมอเตอร์ทันที
ประเภทของ Overload Relay:
- Thermal Overload Relay: ใช้แผ่นไบเมทัล (Bimetal) ที่ตอบสนองตามความร้อนจากกระแส
- Electronic Overload Relay: ใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ในการตรวจจับกระแส มักมีความแม่นยำกว้างกว้างและสามารถตั้งค่าได้ละเอียด
หลักการเลือก Overload Relay ให้เหมาะกับมอเตอร์
- ตรวจสอบกระแสมอเตอร์ (Full Load Current – FLC)ตรวจสอบค่ากระแสพิกัดจากป้ายเนมเพจมอเตอร์ เช่น มอเตอร์ 2.2 kW (3 HP) กระแส Full Load จะเท่ากับ 4.84 A
- เลือก Overload Relay ที่มีช่วงกระแสครอบคลุมตัวอย่าง: หากมอเตอร์มี FLC = 4.84 A ควรเลือก Overload Relay ที่ปรับตั้งได้ในช่วง 4–6 A หรือ 5–8 A
- ตั้งค่ากระแสตัด (Trip Setting) ให้เหมาะสมโดยทั่วไป ตั้งไว้ประมาณ 1.0 – 1.1 เท่าของ FLC เช่น 4.84 A ตั้ง Overload Relay ที่ 5 A หากตั้งค่าต่ำเกินไปอาจตัดบ่อยเกิน หากสูงเกินไปจะไม่สามารถป้องกันได้ดี
- ตรวจสอบประเภทของโหลด
- โหลดทั่วไป: เช่น ปั๊มน้ำ, พัดลม ใช้ Overload Class 10
- โหลดหนัก: เช่น สายพาน, เครื่องบด ใช้ Overload Class 20–30
- ใช้งานร่วมกับ Contactor ที่เหมาะสมOverload Relay ควรติดตั้งต่อหลัง Contactor และเลือกที่ประกบร่วมกันได้ เช่น Contactor ขนาด 9 A สำหรับมอเตอร์ที่มี FLC = 4.84 A
ตัวอย่างการเลือก Overload Relay
สมมติมอเตอร์ 3 เฟส ขนาด 2.2 kW (3 HP) ที่ 380V กระแสพิกัด = 4.84 A ขับสายพานลำเลียง ต้องการ:
- ช่วงกระแส = 4 – 6 A
- ตั้งค่ากระแสตัด = 5 A (1.07 × FLC)
- ใช้ Overload Relay แบบ Thermal Class 10 ร่วมกับ Contactor ขนาด 9 A
การเลือกตั้งค่าและการจับคู่ Overload Relay กับ Contactor อย่างเหมาะสมทำให้เครื่องจักรทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
บทสรุป
การเลือก Overload Relay ให้เหมาะสมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันการ Overload และยืดอายุการใช้งาน


